บันทึกการเรียนครั้งที่ 3
วัน พฤหัสบดี ที่ 3 กันยายน ปี 2558
เวลาเรียน 09:00 - 12:30น.
ความรู้ที่ได้รับ
การใช้ภาษาในการสื่อสารกับเด็กต้องเป็นภาษาที่เข้าใจง่ายและมีความหมายที่ถูกต้องเพราะเด็กจะเรียนรู้จากเรา ในห้องเรียนของเด็กไม่ควรใช้สีไม้เพราะจะเป็นอันตรายกับเด็ก วิธีการแต่งบล็อก
เนื้อหาที่เรียน
การจัดประสบการณ์ภาษาสำหรับเด็กปฐมวัย
ภาษา หมายถึง การสื่อความหมาย เป็นเครื่องมือในการแสดงความคิดและความรู้สึก
ความสำคัญของภาษา
1. ภาษาเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการติดต่อสื่อสาร
2. ภาษาเป็นเครื่องมือในการเรียนรู้
3. ภาษาเป็นเครื่องมือในการเสริมสร้างความเข้าใจอันดีต่อกัน
4. ภาษาเป็นเครื่องมือช่วยจรรโลงจิตใจ
ทักษะทางภาษา ประกอบด้วย
1. การฟัง 2. การพูด
3. การอ่าน 4. การเขียน
องค์ประกอบของภาษา
1. Phonology
•คือระบบเสียงของภาษา
•เสียงที่มนุษย์เปล่งออกมาเพื่อสื่อความหมาย
•หน่วยเสียงจะประกอบขึ้นเป็นคำในภาษา
2. Semantic
•คือความหมายของภาษาและคำศัพท์
•คำศัพท์บางคำสามารถมีได้หลายความหมาย
•ความหมายเหมือนกันแต่ใช้คำศัพท์ต่างกัน
เช่น คนกลาง
-คนที่นั่งระหว่างกลางโดยคนอื่นๆ นั่งขนาบข้าง
-ลูกคนที่อยู่ในลำดับกลางระหว่างพี่กับน้อง
-ผู้ถือความเป็นกลางไม่เข้าข้างฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด
-ผู้ทำหน้าที่ไกล่เกลี่ย
-ผู้ทำการค้าระหว่างผู้ผลิตกับผู้บริโภค
3. Syntax
•คือระบบไวยากรณ์ •การเรียงรูปประโยค
เช่น
- ครูตีเด็ก เด็กถูกครูตี
- นกสีฟ้า Blue Bird
•แม่เกลียดคนใช้ฉัน ฉันเกลียดคนใช้แม่
•คนใช้เกลียดแม่ฉัน แม่คนใช้เกลียดฉัน
•ฉันเกลียดแม่คนใช้ แม่ฉันเกลียดคนใช้
4. Pragmatic
•คือระบบการนำไปใช้ •ใช้ภาษาให้ถูกต้องตามสถานการณ์และกาลเทศะ
เช่น สวัสดีค่ะ/ครับ
พัฒนาการทางภาษาของเด็กปฐมวัย
1.ระยะเปะปะ (Prelinguistic Stage)
•อายุแรกเกิด ถึง 6 เดือน
•เด็กจะเปล่งเสียงดัง ๆ ที่ยังไม่มีความหมาย เพื่อบอกความต้องการ
•ออกเสียง อ้อ – แอ้
•เป็นช่วงที่ดีในการสนับสนุนให้เด็กมีพัฒนาการทางการพูด
•เด็กที่มีสุขภาพดีทั้งกายและใจจะมีพัฒนาทางภาษาที่ดี
2.ระยะแยกแยะ (Jergon Stage)
•อายุ 6 เดือน ถึง 1 ปี
•สามารถแยกแยะเสียงต่าง ๆ ที่ได้ยิน
•พอใจที่ได้ส่งเสียง
•ถ้าเสียงใดที่เด็กเปล่งออกมาได้รับการตอบสนองในทางบวก เด็กก็จะเปล่งเสียงนั้นซ้ำอีก
•บางครั้งเด็กจะเลียนเสียงสูง ๆ ต่ำ ๆ ตามเสียงคนที่พูดคุยด้วย
3.ระยะเลียนแบบ (Imitation Stage)
•อายุ 1 – 2 ปี
•เลียนเสียงต่าง ๆ ที่เด็กได้ยิน
•เสียงที่เปล่งออกมาอย่างไม่มีความหมายจะค่อย ๆ หายไป
•พูดย้ำคำซ้ำๆไปมา
•ใช้คำศัพท์ได้ 5-20 คำ ทำตามคำสั่งง่ายๆได้
4. ระยะขยาย (The Stage of Expansion)
•อายุ 2 – 4 ปี
อายุ 2 ปี
•เรียกชื่อสิ่งของที่อยู่รอบๆตัว
•พูดเป็นคำ
•รู้จักคำศัพท์ 150-300 คำ
•เข้าใจสิ่งที่พูด 2 / 3
•ใช้คำบอกตำแหน่ง
•ใช้คำสรรพนามแทนตัวเอง
อายุ 3 ปี
•พูดเป็นประโยคได้
•รู้จักคำศัพท์ 900-1,000 คำ เข้าใจสิ่งที่พูด 90%
•ขอความช่วยเหลือเมื่อมีปัญหา
•สนทนาโต้ตอบ / เล่าเรื่องด้วยประโยคสั้น ๆ ได้
•สามารถตั้งคำถามโดยใช้เหตุผล
•สนใจนิทานและเรื่องราวต่าง ๆ
•ร้องเพลง ท่องคำกลอน คำคล้องจองง่าย ๆ
•แสดงท่าทางเลียนแบบได้
•รู้จักใช้คำถาม “อะไร”
•สร้างผลงานตามความคิดของตนเองอย่างง่าย ๆ
•เข้าใจคำถามง่ายๆ บอกเพศ ชื่อ อายุตัวเองได้
อายุ 4 ปี
•บอกชื่อสิ่งของในรูป
•ใช้คำบุพบทได้
•รู้จักสีอย่างน้อย 1 สี
•ชอบเล่าเรื่อง
•ชอบพูดซ้ำๆ
•บอกชื่อและนามสกุลของตนเองได้
•พยายามแก้ปัญหาด้วยตนเองหลังจากได้รับคำชี้แนะ
•สนทนาโต้ตอบ/เล่าเรื่องเป็นประโยคอย่างต่อเนื่อง
•สร้างผลงานตามความคิดของตนเอง โดยมีรายละเอียดเพิ่มขึ้น
•รู้จักใช้คำถาม “ทำไม”
5.ระยะโครงสร้าง (Structure Stage)
•อายุ 4 – 5 ปี
•ใช้คำบรรยายลักษณะได้ดีขึ้น
•เริ่มเล่นสนุกกับคำและรู้จักคิดคำและประโยคของตนเอง
•ทำตามคำสั่ง 3 อย่างต่อกันได้
•รู้จักเวลาคร่าวๆ
6.ระยะตอบสนอง (Responding Stage)
•อายุ 5 – 6 ปี
•สนทนาโต้ตอบบอกเล่าเป็นเรื่องราวได้
•รู้จักใช้คำถาม “ทำไม” “อย่างไร”
•เริ่มพัฒนาไปสู่ภาษาที่เป็นแบบแผนมากขึ้น
•สร้างผลงานตามความคิดของตนเอง โดยมีรายละเอียดเพิ่มขึ้นและแปลกใหม่
•ใช้ภาษาเหล่านั้นกับสิ่งต่าง ๆ รอบ ๆ ตัว
7.ระยะสร้างสรรค์ (Creative Stage)
•อายุ 6 ปีขึ้นไป
•เข้าใจคำพูดที่ใช้ในสังคม
•ภาษาพูดเป็นนามธรรมมากขึ้น
•สนุกกับการแสดงความคิดเห็นโดยการพูดและการเขียน
ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพัฒนาการทางภาษา
1.วุฒิภาวะ
•อายุ 3 ขวบ จะสามารถใช้คำพูด 376 คำต่อวัน
•อายุ 4 ขวบ จะพูดได้ 397 คำต่อวัน
2.สิ่งแวดล้อม
•บ้าน พ่อแม่ ผู้ปกครอง
•ครู โรงเรียน
3.การเข้าใจความหมายภาษาที่ใช้พูด
4.การจัดชั้นเรียน
5.การมีส่วนร่วม (Participation)
พัฒนาการภาษาของเด็กปฐมวัย
เด็กจะค่อยๆสร้างความรู้และเข้าใจ เป็นลำดับขั้น
ครูหรือผู้สอนต้องมีความเข้าใจและยอมรับ
หากพบว่าเด็กใช้คำศัพท์หรือไวยากรณ์ไม่ถูกต้อง
ควรมองว่านั่นเป็นกระบวนการเรียนรู้ภาษาของเด็ก
ทบทวนเนื้อเพลง
เพลงในคาบเรียนนี้
เล่าภาพที่ตนเองวาด
การนำความรู้ไปประยุกต์ใช้
- นำเนื้อหาทฤษฎีที่เรียนไปปรับใช้ในการเรียนการสอน
ประเมินตนเอง : วันนี้มีความพร้อมในการเรียนทบทวนเพลงได้ทุกเพลง เนื้อหาเข้าใจ
ประเมินเพื่อน : เพื่อนๆตั้งใจเรียนทำผลงานออกมาได้ดีทุกคน
ประเมินอาจารย์ : เนื้อหาที่อาจารย์นำมาสอนกะทัดรัด เข้าใจง่าย ทำให้นักศึกษาไม่ง่วงนอน และเข้าใจง่าย